การวางแผนชีวิตเป็นการวางแผนระยะยาวที่ต้องอาศัยเครื่องมือหลายอย่าง โดยเฉพาะเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยให้ชีวิตมีสภาพคล่องที่ดี มีแผนรองรับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ประกันสุขภาพก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรมีเผื่อความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่เนื่องจากมีทางเลือกมากมาย อันนั้นก็ดี อันนี้ก็คุ้มครองได้มาก จึงต้องมีแนวทางสำหรับวิธีเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับแผนชีวิตของตนเอง เพราะการใช้ชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทั้งแผนการในอนาคตและความเสี่ยงต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกันด้วย หากพิจารณาจากความต้องการในชีวิตของตัวเองเป็นหลักจะดีที่สุด

วิธีเลือกประกันสุขภาพ คุณสมบัติของประกันที่ตอบโจทย์ชีวิตได้

ก่อนซื้อประกันทุกคนย่อมเข้าใจความต้องการของตนเองดีว่าประกันแบบไหนจะช่วยตอบโจทย์ได้ แต่วิธีเลือกประกันสุขภาพไม่ใช่แค่การเลือกตามปัจจัยในชีวิตเท่านั้น บางครั้งอาจต้องมีการคัดกรองก่อนในเบื้องต้นว่า บริษัทประกันหรือรูปแบบกรมธรรม์นั้น ๆ มีคุณสมบัติที่ดีหรือไม่ ให้ความมั่นคงด้านเงินที่คุณจะลงทุนไปกับประกันมากน้อยแค่ไหน เพราะผลตอบแทนจากประกันสุขภาพไม่ใช่การมีเงินจ่ายเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉินเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความคุ้มค่าที่จะได้รับในระยะยาว

เครือข่ายโรงพยาบาล

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนสนใจทำประกัน คือ การลดค่าใช้จ่ายเมื่อต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลายสาขา วิธีเลือกประกันสุขภาพเมื่อต้องการรักษาในโรงพยาบาลยอดนิยมก็คือ ดูว่าประกันนั้น ๆ มีโรงพยาบาลเหล่านั้นอยู่ในเครือข่ายหรือไม่ เพราะเมื่อเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือ จะช่วยลดความยุ่งยากเรื่องการเบิกจ่ายและเคลมประกันได้มาก 

ระยะเวลารอคอย

เมื่อทำประกันแล้วไม่ได้หมายความว่าจะได้รับความคุ้มครองทันทีหลังจากจ่ายเบี้ยประกันงวดแรก เนื่องจากบริษัทประกันไม่ให้ความคุ้มครองหากเป็นโรคมาก่อน แล้วต้องการช่วงระยะเวลาเพื่อประเมินว่าจะมีอาการเจ็บป่วยแสดงออกก่อนประกันมีผลหรือไม่ ระยะเวลารอคอยมักอยู่ที่ประมาณ 30-120 วัน ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของโรคที่ต้องการความคุ้มครอง

ชื่อเสียงของบริษัทประกัน

หนึ่งในข้อสำคัญที่สุดสำหรับวิธีเลือกประกันสุขภาพคือ ชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทประกัน เพราะแสดงถึงความน่าเชื่อถือ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง เช่น จ่ายเงินล่าช้าต้องสำรองจ่ายไปก่อน ติดตามความคืบหน้าได้ยาก ได้เงินไม่ครบจำนวนตามที่กำหนด เป็นต้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาศึกษาและสอบถามผู้มีประสบการณ์กับบริษัทประกันนั้น ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา

วิธีเลือกประกันสุขภาพ โดยประเมินจากปัจจัยในชีวิต

เมื่อคัดกรองรายชื่อบริษัทประกันตามคุณสมบัติแล้ว อาจมีตั้งแต่ 3-5 แห่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดี เมื่อต้องเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ก็ยิ่งต้องใช้วิธีเลือกประกันสุขภาพที่ลงรายละเอียดมากขึ้น ตั้งแต่ลักษณะการใช้ชีวิต ช่องทางของรายได้ วิธีเอาประกัน หรือซื้อเพื่อเสริมประกันรูปแบบอื่น ๆ ที่มีแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด โดยสามารถทำได้ดังนี้

  1. ประวัติความเสี่ยงด้านสุขภาพ

โรคที่ส่งต่อทางกรรมพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง โลหิตจาง เบาหวาน และอื่น ๆ หากเข้าเงื่อนไขที่ประกันให้ความคุ้มครอง เมื่อพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ แล้วคุ้มค่าก็ทำได้ แต่หลายโรคก็เกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยไม่รู้ตัว ทั้งอาหาร ลักษณะงาน สภาพอากาศ มลพิษต่าง ๆ ที่ร่างกายได้รับ เมื่อพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรเลือกประกันที่คุ้มครองความเสี่ยงเหล่านี้

  1. เสริมจากสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว

เมื่อมีสวัสดิการจากองค์กรที่ทำงานอยู่ วิธีเลือกประกันสุขภาพเพิ่มเติมให้เลือกจากสิ่งที่เฉพาะเจาะจงกับตนเอง ซึ่งสวัสดิการประกันกลุ่มจากบริษัทยังไม่มีให้ ทั้งนี้ ยิ่งความคุ้มครองมากค่าเบี้ยประกันก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย อาจเลือกเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ หรือเลือกเพื่อคุณภาพการรักษาพยาบาลที่ดีกว่าจากโรงพยาบาลชั้นนำที่ต้องการ

  1. แยกจ่ายหรือเหมาจ่าย เลือกได้ตามต้องการ

ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายมีวงเงินคุ้มครองสูง ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เอาไว้เกือบทั้งหมด ทำให้หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องแยกรายการไป แต่เบี้ยประกันก็สูงกว่าแบบแยกจ่ายเช่นกัน หากเป็นแบบแยกจ่ายสามารถกำหนดวงเงินได้เอง และเลือกเฉพาะรายการที่ต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน เหมาะกับการหาตัวเลือกเพิ่มเติมนอกเหนือจากสวัสดิการที่มีอยู่แล้ว และต้องมั่นใจในความเสี่ยงของตนเองระดับหนึ่ง

วิธีเลือกประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงทั้งชีวิตและเงินที่มี ก็เหมือนได้ลงทุนกับแผนสำรองในชีวิต แม้ท้ายที่สุดอาจไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ตรงนี้ ก็ยังถือเป็นความโชคดีที่คุณไม่ได้ป่วย หรือหากป่วยก็ไม่ต้องใช้เงินสำรองมารักษาตัวจนหมด ได้ส่งต่อให้คนข้างหลังหรือลูกหลานต่อไปได้ เมื่อสบายใจแล้วก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และดูแลตนเองให้ดีที่สุด